Develop
ค้นหาบล็อกนี้
วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554
โลกนี้ปัจจุบันมีอยู่กี่ศาสนาและศาสนาใดคนนับถือมากที่สุด?
ศาสนาในโลกนี้ปัจจุบันมีอยู่กี่ศาสนาและศาสนาใดคนนับถือมากที่สุด?
ศาสนา หมายถึง ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเหนือธรรมชาติ ในหลักอภิปรัชญาว่าทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นมาดำรงอยู่และจะเป็นเช่นไรต่อไป มีหลักการ สถาบัน หรือประเพณี ที่เป็นที่เคารพโดยทั่วไป แล้วอาจกล่าวได้ว่า ศาสนาเป็นสิ่งที่ควบคุม และประสานความสัมพันธ์ของมนุษย์ ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข คือ ให้มีหลักการ ค่านิยม วัฒนธรรมร่วมกันและวิถีทางที่มนุษย์เลือกใช้ในการดำรงชีวิต ให้สังคมเป็นหนึ่งเดียวกัน มีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยหลักจริยธรรม คุณธรรม ศิลธรรมที่เป็นบรรทัดฐานเดียวกันสำหรับประเทศไทย ประชาชนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา โดยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภ์ทุกศาสนา ศาสนาสำคัญ และมีคนนับถือมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์
นอกจากการนับถือศาสนาแล้ว ยังมีความเชื่อไม่นับถือศาสนาด้วย เรียก "อศาสนา" (อังกฤษ: irreligion) และผู้ไม่นับถือศาสนาเรียก "อศาสนิก" (อังกฤษ: irreligious person)
ศาสนา ในโลกนี้มีอยู่ด้วยกันหลายศาสนา ที่เสื่อมความนิยมและสูญหายไปแล้วก็มีอยู่มากมายหลายศาสนาเช่นกัน ที่ยังได้รับการนับถือและศรัทธาอยู่ในปัจจุบัน โดยหลักๆแล้วมีอยู่ประมาณ ๘ ศาสนา ดังนี้
๑. ศาสนาคริสต์มีผู้นับถือประมาณ ๒,๑๐๐ ล้านคน
๒. ศาสนาอิสลาม มีผู้นับถืออยู่ประมาณ ๑,๓๐๐ ล้านคน
๓. ศาสนาฮินดู มีผู้นับถือประมาณ ๘๒๐ ล้านคน
๔. ศาสนาพุทธ มีผู้นับถือประมาณ ๓๖๐ ล้านคน
๕. ศาสนาซิกข์ มีผู้นับถือประมาณ ๒๓ ล้านคน๖. ศาสนายูดายหรือศาสนายิว มีผู้นับถือประมาณ ๑๔ ล้านคน
๗. ศาสนาบาไฮ มีผู้นับถือประมาณ ๗ ล้านคน
๘. ศาสนาเชน มีผู้นับถือประมาณ ๔ ล้านคน
ความเชื่อของศาสนาต่างๆนี้มีแตกต่างกัน บ้างก็เชื่อในพระเจ้าหลายองค์ หรือที่เรียกว่า “พหุเทวนิยม” ความเชื่อในพระเจ้าหลายองค์นี้ในยุคสมัยโบราณนั้นมีอยู่มากมายหลายศาสนา เช่น ศาสนาของชาวกรีกและชาวโรมันโบราณ หรือ ศาสนาโบราณของชาวพื้นเมืองตามทวีปต่างๆทั่วโลกก็เชื่อกันว่ามีพระจ่าหลายองค์ร่วมกันสร้างโลกและสรรพสิ่งขึ้น แต่ศาสนาและความเชื่อของคนโบราณเหล่านั้นก็ค่อยๆจางหายไปกับอารยธรรมต่างๆในโลกนี้ที่เริ่มมีความก้าวหน้าขึ้น ยกเว้นเพียงศาสนาเดียว ที่ยังคงยืนยงในศรัทธาของผู้นับถือศาสนานี้ นั่นก็คือศาสนาฮินดู หรือที่เรียกอีกอย่างว่าศาสนาพราหมณ์ ซึ่งส่วนใหญ่นับถือกันอยู่ในหมู่ชาวอินเดีย สำหรับศาสนาที่เชื่อในพระเจ้าเพียงองค์เดียว หรือ “เอกเทวนิยม” นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายศาสนา เช่น ศาสนาคริสต์ อิสลาม ยูดาย ซิกข์ และบาไฮ ส่วนศาสนาที่ไม่เชื่อเรื่องของพระเจ้าเลยหรือที่เรียกว่า “อเทวนิยม” ศาสนาพุทธและศาสนาเชน โดยทั้งสองศาสนานี้เกิดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และในประเทศเดียวกันคือประเทศ อินเดีย ทั้งสองศาสนานี้เชื่อในองค์พระศาสดาเช่นกัน โดยคำสอนของศาสนาก็ยังสอนเชื่อในเรื่องของคุณงามความดี ที่มนุษย์ต้องเป็นผู้กระทำและกำหนดวิถีชีวิตของตัวเอง ไม่ใช่พระเจ้าหรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ใดเป็นผู้กำหนด อย่างไรก็ดียังมีลัทธิความเชื่ออีกมากมายที่ไม่ถึงขั้นเป็นศาสนา แต่ก็มีผู้คนให้ความศรัทธาอีกเป็นจำนวนมาก ลัทธิต่างๆเหล่านี้ก็มีทั้งที่แตกความ เชื่อออกมาจากศาสนาหลักๆและที่สถาปนาความเชื่อแบบอิสระขึ้นเอง ลัทธิทั้งหลายนี้มีมากมายนับพันนับหมื่นหรือน่าจะนับแสนๆลัทธิเลยทีเดียว และยังมีผู้คนอีกจำนวนมากมหาศาลอีกเช่นกันทั่วทั้งโลกที่ไม่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งหรือแม้แต่ลัทธิใดๆเลย คนจำพวกนี้มีทั้งที่เป็นพวกอิสรนิยมและที่สร้างความเชื่อเฉพาะตัวในการดำเนินชีวิตขึ้นมาเอง
สำหรับในประเทศไทยถึงแม้จะนับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักนั้น แต่ความเชื่อในศาสนาของคนไทยส่วนใหญ่กลับเป็นความเชื่อผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับการรับอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูในเรื่องของพิธีกรรมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาใช้ในวิถีชีวิตประจำวันของเราด้วย ไม่ได้ดำเนินไปตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ให้พึ่งตัวเองไม่ใช่คอยพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด
องค์ประกอบของศาสนา
พัฒนาการของศาสนามีความเชื่อว่าศาสนานั้นเกิดมาจากความต้องการเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ นับแต่อดีดมนุษย์จะสงสัยว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมต้องเกิดขึ้น จะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ เปลี่ยนแปลงแล้วจะเกิดผลอะไรต่อมาอีก จนนำมาสู่การค้นหาแนวทางต่างๆเพื่อตอบปัญหาเหล่านี้ จนนำมาเป็นความเชื่อและเลื่อมใส ตัวอย่างเช่นศาสนาพุทธ เกิดจากเจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นความทุกข์ จึงทรงหาแนวทางให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ด้วยวิธีการต่างๆนานา จนทรงค้นพบอริยสัจ 4 ด้วยวิธีที่ เป็นการฝึกจิตด้วยสติจนถึงซึ่งความรู้แจ้ง ในสรรพสิ่ง และความดับความทุกข์ ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับสิ้นซึ่งกิเลส ทรงสอนให้มนุษย์ ให้ทำบุญ รักษาศีล และภาวนา เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการพ้นทุกข์ของมหาชน อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาในปัจจุบัน คำอธิบายของการเกิดขึ้นและพัฒนาการของศาสนา สามารถแบ่งได้เป็นสี่กลุ่ม
- ศาสนาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความกลัว ในธรรมชาติที่ตนเองไม่รู้ จนต้องวิงวอนและร้องขอในสิ่งที่อยากได้
- ศาสนาเกิดจากความไม่รู้สงสัย ในอภิปรัชญาว่าโลกเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และจะเป็นเช่นไรต่อไป
- ศาสนาเกิดจากความต้องการที่จะสร้างความเชื่อขึ้นมา เพื่อช่วยควบคุมความประพฤติของคนในสังคม ให้สังคมสงบสุข
- ศาสนาเกิดจากความต้องการที่จะพ้นจากความทุกข์ เช่นความอดอยาก โรคระบาด ความแก่ ความตาย การสูญเสีย
ปรัชญาศาสนา
ศาสนาของโลกถ้าแบ่งตามลักษณะปรัชญาที่คล้ายคลึงกัน แบ่งได้ 2 ลักษณะ
ศาสนาที่ยึดถือพระเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด
กลุ่นศาสนาที่นิยมเรียกว่า ปรัชญาตะวันตก โดยถือตามอิทธิพลในการรับอารยธรรม ได้แก่ศาสนาโซโรอัสเตอร์ ศาสนายูดาย (ยิว) ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาซิกข์ ศาสนาบาไฮ ศาสนาฮินดูศาสนาพราหมณ์ (แบบเก่า) ศาสนากลุ่มนี้มีลักษณะที่คล้ายกันคือ
- พระเจ้าคือสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาสูงสุด ที่ไม่อาจเข้าถึงได้ ถ้าพระองค์ไม่ประสงค์
- ศาสนิกต้องแสดงความรักหรือภัคดีต่อพระเจ้าด้วยการสรรเสริญ ปฏิบัติตามที่พระองค์ประสงค์ที่ได้ตรัสผ่านศาสนทูตของพระเจ้า
- อาจขอให้ทรงไถ่บาป อ้อนวอนให้ทรงประทานสิ่งที่ดีแก่ชีวิต
- เชื่อว่าทรงเป็นพระผู้สร้าง สร้างสรรพสิ่ง กำหนดสภาวการณ์ที่เป็นไปของโลก แต่ทรงปล่อยให้มนุษย์เลือกทางแห่งตนเอง โดยจะทรงช่วยเมื่อมนุษย์ลงมือกระทำ
- ก่อนที่จะเชื่อให้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เมื่อเชื่อแล้วอย่าสงสัย เพราะพระเจ้าจะทรงทดสอบจิตใจในศรัทธา
- เมื่อถึงวันสิ้นโลกพระเจ้าจะทำลายทุกสิ่ง ที่พระองค์สร้างขึ้น และจะชุบชีวิตทุกคนให้ฟื้นคืนชีพมารับฟังคำพิพากษา ผู้เชื่อจะรอด และอยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร์ ผู้ไม่เชื่อ จะถูกลงทัณฑ์ให้ตกนรกชั่วกาล
- ให้วางใจในพระเจ้า รับพระองค์เข้าไว้ในใจจะพบแต่สันติสุข
ศาสนาที่มุ่งเข้าถึงความจริงสูงสุด
กลุ่มศาสนาที่นิยมเรียกว่าปรัชญาตะวันออก โดยถือตามอิทธิพลในการรับอารยธรรม ได้แก่ศาสนาพุทธทั้งเถรวาท นิกายเซนและวัชรยาน ศาสนาเชน ลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื๊อ ศาสนากลุ่มนี้มีลักษณะที่คล้ายกันคือ
- เชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองตามกฎธรรมชาติ สรรพสิ่งแท้จริงเป็นเพียงความว่างเปล่า
- ความจริงแท้ไม่อาจอธิบายได้ด้วยคำพูด และไม่อาจเข้าถึงได้ด้วยหลักตรรกะและอนุมาน
- การเข้าถึงความจริงแท้ทำได้ด้วยการบรรลุปัญญาญาณ จากการไม่ติดอยู่ในมายาของตรรกะและอนุมาน
- เชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด เชื่อในกฎแห่งกรรม
- มีหลักคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม ที่มักน้อยสันโดษพอเพียง ยึดถือหน้าที่ มีวันัยสูงไม่เห็นแก่ตัว แต่ไม่ยึดติดในสิ่งทั้งปวง มุ่งละกิเลส
- เชื่อในตัวมนุษย์ว่าเข้าถึงความจริงได้ ทุกสิ่งเกิดจากการกระทำของตนเอง เชื่อในศาสตร์ลี้ลับ (เวทมนตร์ โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์) ว่ามีจริง
- เชื่อว่าถ้าจิตวิญญาณเข้าถึงความจริงสูงสุดจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
ทั้งสองกลุ่มมีความเชื่อที่ไม่เหมือนกันคือกลุ่มแรกยอมรับว่าองค์สูงสุดมีอยู่จริง เช่นศาสนาคริสต์และอิสลามเรียกองค์สูงสุดว่าพระเจ้า ผู้นับถือมีเป้าหมายเพื่อการเข้าไปรวมอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า ส่วนกลุ่มหลังเช่นศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่ยอมรับการมีอยู่ของพระเจ้าหรือองค์สูงสุด แต่เชื่อในการมีอยู่ของเทพเจ้า (เหล่าพรหมา) ซึ่งเป็นเทวดาชั้นสูงสุดเรียกว่าพรหม แต่ต่างกันตรงที่ผู้ที่นับถือศาสนาศาสนาพุทธไม่มีเป้าหมายเพื่อการไปรวมอยู่กับพรหม แต่สามารถไปเกิดเป็นพรหมได้ เพราะการรวมอยู่หรือไปเกิดเป็นพรหม เมื่อหมดเหตุปัจจัยก็ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ อันมีต่ำสุดคือนรก สูงสุดคือพรหม อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทางที่จะหลุดพ้นจากสังสารวัฏได้จึงมีทางเดียวเท่านั้นคือ นิพพาน
ศาสนาในโลกถึงแม้จะมีมาก แต่ถ้าจัดเป็นประเภทก็ได้เป็น 2 ประเภท คือ
เทวนิยม
เชื่อว่ามีเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าเทพเจ้าทั้งหลาย หรือเรียกกันว่าพระเจ้า มีพระเจ้าสูงสุด เพียงพระองค์เดียว พระองค์เป็นผู้สร้างโลกและสรรพสิ่งและเชื่อกันว่าพระเจ้าอาจติดต่อมนุษย์ โดยผ่านศาสดาพยากรณ์หลายองค์ เช่น พระอัลเลาะห์ ทรงติดต่อกับท่านนบีมุฮัมหมัด พระยะโฮวาห์ ทรงติดต่อกับ ท่านโมเสส และพระเยซู ส่วนบางศาสนาก็นับถือพระเจ้า หรือเทพเจ้าหลายองค์ อย่าง ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เชื่อว่าพระเจ้าอวตารแยกเป็น3องค์ เป็นต้น ศาสนาแบบเทวนิยม ได้แก่
อเทวนิยม
ศาสนาประเภทนี้ ไม่เชื่อในการมีอยู่จริงของพระเจ้า โดยเชื่อว่าโลกและสรรพสิ่งเกิดขึ้นเองตามกฎของธรรมชาติ เชื่อว่ามนุษย์เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง ทุกสิ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัย ศาสนาประเภทนี้ ได้แก่
ศาสนาที่ตายแล้ว
ศาสนาในโลกอาจแบ่งเป็นศาสนาที่ยังมีชีวิตอยู่ ศาสนาที่ตายแล้ว และศาสนาที่สาบสูญ
- ศาสนาที่ยังมีชีวิตอยู่ คือศาสนาที่มีความเป็นสถาบันมีองค์กร มีผู้นับถือเป็นจำนวนมากพอประมาณ มีระบบคำสอน ได้แก่ศาสนาในโลกปัจจุบัน
- ศาสนาที่ตายแล้ว คือศาสนาที่เคยมีผู้นับถือ แต่ปัจจุบันแทบไม่มีคนนับถืออีกแล้ว แต่ยังมีหลักฐานให้เรารู้ว่าเคยมีศาสนานี้อยู่ในโลกมาก่อน
- ศาสนาที่สาบสูญ คือศาสนาที่เราไม่มีข้อมูลให้รู้ว่าเคยมีศาสนานี้อยู่ในโลกมาก่อน
ศาสนาที่ตายแล้ว
- ศาสนาอียิปต์โบราณ
- ศาสนาเปรูโบราณ
- ศาสนาเม็กซิโกโบราณ
- ศาสนามิถรา
- ศาสนามาณิกิ
- ศาสนาบาบิโลเนี่ยน
- ศาสนาสุเมอเลี่ยน-อัคคาเดียน
- ศาสนาฮิทไทท์
- ศาสนากรีก
- ศาสนาโรมัน
- ศาสนาเซลติก
- ศาสนาสแกนดิเนเวีย-ติวตันโบราณ
ศาสนาในโลกปัจจุบัน
ลัทธิ
- ชินโต
- ขงจื๊อ
- เต๋า
- วูดู
- พุทธตันตระ
- ลัทธิหัวเหา
- ลัทธิเก๋าได่
- ลัทธิมาณีกี
- ลัทธิโอมชินริเกียว
- ลัทธิชอนโดเกียว
จำนวนผู้นับถือศาสนาและลัทธิต่างๆ
- ศาสนาคริสต์: 2.1 พันล้านคน
- ศาสนาอิสลาม: 1.5 พันล้านคน
- ไม่นับถือศาสนา/เชื่อในวิทยาศาสตร์แบบตายแล้วสูญ/อศาสนา: 1.1 พันล้านคน
- ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู: 900 ล้านคน
- ศาสนาพุทธ: 376 ล้านคน
- ศาสนาซิกข์: 23 ล้านคน
- ลัทธิจูเช (นับถือคิมอิลซุง) : 19 ล้านคน
- นับถือผี: 15 ล้านคน
- ศาสนายิว: 14 ล้านคน
- ศาสนาบาไฮ: 7 ล้านคน
- ศาสนาโซโรอัสเตอร์: 2.6 ล้านคน
- ลัทธิเพแกนใหม่: 1 ล้านคน
- ขบวนการราสตาฟาเรียน: 6 แสนคน
สัญลักษณ์ของศาสนาต่าง ๆ
สัตว์ต่าง ๆในโลกนี้มีกี่ชนิด?
สัตว์ต่าง ๆในโลกนี้มีกี่ชนิด?
สัตว์ในโลกนี้มีหลายสปีชีย์มาก ถ้าคุณให้แยกจำนวน แยกชนิด สงสัยคุณต้องเปิดเวบไซด์ให้ตอบเลยค่ะ เพราะแค่กรอบนี้คงไม่พอ อิอิ คำตอบประมาณสมุดหน้าเหลืองเลยค่ะ อ่านไหวมั๊ยคะ มีแค่1.7ล้านชนิดเอง
อาณาจักรสัตว์ (Animal Kingdom)
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเด่น สามารถ สังเกตเห็นได้ชัด เนื่องจากสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว และมีขนาดหรือรูป ร่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการเจริญเติบโตอย่างชัดเจน ในปัจจุบันมี สัตว์มากมายหลายล้านสปีชีย์ บางชนิดก็ให้ประโยชน์และบางชนิดก็ให้โทษต่อสิ่ง มีชีวิตอื่น ๆ และมนุษย์
สัตว์มีลักษณะสำคัญ ได้แก่
1. ประกอบด้วยเซลล์ประเภทยูคารีโอตเซลล์ (Eucaryotic Cell) เป็นเซลล์ที่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส มีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สำคัญภายในเซลล์
2. ประกอบด้วยเซลล์จำนวนหลายเซลล์ รวมกันเป็นเนื้อเยื่อ (tissue) หรือเป็น อวัยวะ (organ) ต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งได้
3. ไม่มีผนังเซลล์ และไม่มีคลอโรพลาสต์ ดังนั้นจึงไม่สามารถสร้างอาหาร เองได้โดยขบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงจึงเรียก ว่า Heterotrophic organism (Heterotroph)
4. ดำรงชีพโดยการเป็นผู้บริโภค คือ ต้องอาศัยสารอินทรีย์จากสิ่งมี ชีวิตชนิดอื่น โดยการกิน อาจจะกินพืช กินสัตว์ หรือกินทั้งพืชและสัตว์
5. สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว หรือเคลื่อนทีช้า หรือบางชนิดก็ไม่เคลื่อนที่เลย เช่นปะการัง,ฟองน้ำ เป็นต้น
6. สัตว์ส่วนมากจะมีระบบประสาท ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะ ต่าง ๆ ให้ทำงานประสานกัน หรือใช้รับความรู้สึก เมื่อมีสิ่งใดมาสัมผัส จึง สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้
7. สัตว์ส่วนมากจะมีโครงร่างแข็ง (Skeleton) เพื่อเป็นที่ยึดเกาะ ของกล้ามเนื้อ และทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะภายในได้ด้วย เช่น ปู กุ้ง หอย เป็น ต้น
8. เนื้อเยื่อ และระบบต่าง ๆ จะซับซ้อนกว่าพืชมากและทำหน้าที่อย่างเฉพาะเจาะจง
9. หลังจากสืบพันธุ์หรือมีการปฏิสนธิเกิดขึ้นจะมีระยะตัวอ่อน (Embryo) พักหนึ่ง
เกณฑ์เฉพาะในการจำแนกสัตว์
1. พิจารณาจากรูปแบบของสมมาตร
1.1 Asymemetry ไม่สมมาตร คือไม่สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสองส่วนที่เหมือนกันได้ เช่น อมีบา
1.2 Bilateral symmetry คือ สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสองส่วนที่เท่า ๆ กันได้
1.3 Radial symmetry สมมาตรในแนวรัศมี คือ สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสองส่วน ให้มีลักษณะเหมือนกันได้หลายแนว โดยตัดผ่านจุดศูนย์กลางตามแนว รัศมี เช่น ฟองน้ำบางชนิด แมงกะพรุน และดาวทะเล
1.4 Sperical หรือ Universal symmetry สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสอง ส่วนที่เหมือนกันได้ทุกระนาบโดยผ่านจุดศูนย์กลางเช่นกัน ได้แก่ Volvox
2. พิจารณาจากจำนวนชั้นของเนื้อเยื่อ (Germ layer)
2.1 Diploblastica จะมีเนื้อเยื่อเพียงสองชั้นคือ เนื้อเยื่อชั้นนอก(ectoderm) และเนื้อเยื่อชั้นใน(endoderm)
2.2 Triploblastica จะมีเนื้อเยื่อ สามชั้น คือ มีเนื้อเยื่อชั้นกลางเพิ่มเข้ามาคือ Mesoderm ได้แก่ สัตว์จำพวกหนอนตัวแบนขึ้นไป
3. พิจารณาจากช่องว่างภายในลำตัว (coelom)
3.1 Acoelomate animal คือสัตว์ที่ไม่มีช่องว่างภายในลำตัวเช่น หนอนตัวแบน (Phylum Platyhelminthes)
3.2 Psudocoelomate animal (Psudocoelom) คือสัตว์ที่มีช่องว่างแบบ เทียม จะมีช่องว่างที่อยู่ระหว่าง เนื้อเยื่อชั้นนอกกับชั้นกลาง หรือเนื้อ เยื่อชั้นกลางกับชั้นใน เช่น หนอนตัวกลม (Phylum Nemathehelminthes)
3.3 Eucoelomate animal (True coelom) คือสัตว์ที่มีช่องว่างภายในลำ ตัวแบบแท้ เกิดจากเนื้อเยื่อชั้นกลางแยกตัวออกไปเป็นช่อง เช่น ไส้เดือน ดิน และสัตว์ชั้นสูง เป็นต้น
4. พิจารณาจากการแบ่งส่วนลำตัวเป็นข้อปล้อง (Segmentation)
4.1 Non metameric คือแบ่งเป็นข้อปล้องเฉพาะภายนอก เกิดที่ลำตัวเท่า นั้น ไม่ได้เกิดตลอดทั้งตัว เช่น พยาธิตัวตืด,หนอนตัวกลม, เอคไคโน เดิร์ม และมอลลัสกา
4.2 Metameric คือแบ่งเป็นข้อปล้องอย่างแท้จริง โดยเกิดตลอดลำตัว เกิด จากเนื้อเยื่อชั้นกลาง เนื้อเยื่อชั้นอื่นจึงเกิดข้อปล้องไป ด้วย เช่น ไส้เดือนดิน กุ้ง ปู และสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง
5. พิจารณาจากการมีระบบเลือด
5.1 สัตว์ที่ยังไม่มีระบบเลือด เช่น ฟองน้ำ,ซีเลนเทอเรต, หนอนตัวแบนและ หนอนตัวกลม
5.2 สัตว์ที่มีระบบเลือดแบบวงจรเปิด เช่น อาร์โทรพอด, มอลลัสก์ และปลาดาว เป็นต้น
5.3 สัตว์ที่มีระบบเลือดแบบวงจรปิด เช่น ไส้เดือนดิน และสัตว์ชั้นสูง
6. พิจารณาจากลักษณะทางเดินอาหาร
6.1 ทางเดินอาหารแบบไม่แท้จริง (Channel network) เป็นเพียงช่องว่างแบบ ร่างแห เป็นเพียงทางผ่านของน้ำจากภายนอกเข้าสู่ลำตัว เช่น ฟองน้ำ
6.2 ทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete digestive tract)
สัตว์ในโลกนี้มีหลายสปีชีย์มาก ถ้าคุณให้แยกจำนวน แยกชนิด สงสัยคุณต้องเปิดเวบไซด์ให้ตอบเลยค่ะ เพราะแค่กรอบนี้คงไม่พอ อิอิ คำตอบประมาณสมุดหน้าเหลืองเลยค่ะ อ่านไหวมั๊ยคะ มีแค่1.7ล้านชนิดเอง
อาณาจักรสัตว์ (Animal Kingdom)
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเด่น สามารถ สังเกตเห็นได้ชัด เนื่องจากสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว และมีขนาดหรือรูป ร่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการเจริญเติบโตอย่างชัดเจน ในปัจจุบันมี สัตว์มากมายหลายล้านสปีชีย์ บางชนิดก็ให้ประโยชน์และบางชนิดก็ให้โทษต่อสิ่ง มีชีวิตอื่น ๆ และมนุษย์
สัตว์มีลักษณะสำคัญ ได้แก่
1. ประกอบด้วยเซลล์ประเภทยูคารีโอตเซลล์ (Eucaryotic Cell) เป็นเซลล์ที่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส มีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สำคัญภายในเซลล์
2. ประกอบด้วยเซลล์จำนวนหลายเซลล์ รวมกันเป็นเนื้อเยื่อ (tissue) หรือเป็น อวัยวะ (organ) ต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งได้
3. ไม่มีผนังเซลล์ และไม่มีคลอโรพลาสต์ ดังนั้นจึงไม่สามารถสร้างอาหาร เองได้โดยขบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงจึงเรียก ว่า Heterotrophic organism (Heterotroph)
4. ดำรงชีพโดยการเป็นผู้บริโภค คือ ต้องอาศัยสารอินทรีย์จากสิ่งมี ชีวิตชนิดอื่น โดยการกิน อาจจะกินพืช กินสัตว์ หรือกินทั้งพืชและสัตว์
5. สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว หรือเคลื่อนทีช้า หรือบางชนิดก็ไม่เคลื่อนที่เลย เช่นปะการัง,ฟองน้ำ เป็นต้น
6. สัตว์ส่วนมากจะมีระบบประสาท ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะ ต่าง ๆ ให้ทำงานประสานกัน หรือใช้รับความรู้สึก เมื่อมีสิ่งใดมาสัมผัส จึง สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้
7. สัตว์ส่วนมากจะมีโครงร่างแข็ง (Skeleton) เพื่อเป็นที่ยึดเกาะ ของกล้ามเนื้อ และทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะภายในได้ด้วย เช่น ปู กุ้ง หอย เป็น ต้น
8. เนื้อเยื่อ และระบบต่าง ๆ จะซับซ้อนกว่าพืชมากและทำหน้าที่อย่างเฉพาะเจาะจง
9. หลังจากสืบพันธุ์หรือมีการปฏิสนธิเกิดขึ้นจะมีระยะตัวอ่อน (Embryo) พักหนึ่ง
เกณฑ์เฉพาะในการจำแนกสัตว์
1. พิจารณาจากรูปแบบของสมมาตร
1.1 Asymemetry ไม่สมมาตร คือไม่สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสองส่วนที่เหมือนกันได้ เช่น อมีบา
1.2 Bilateral symmetry คือ สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสองส่วนที่เท่า ๆ กันได้
1.3 Radial symmetry สมมาตรในแนวรัศมี คือ สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสองส่วน ให้มีลักษณะเหมือนกันได้หลายแนว โดยตัดผ่านจุดศูนย์กลางตามแนว รัศมี เช่น ฟองน้ำบางชนิด แมงกะพรุน และดาวทะเล
1.4 Sperical หรือ Universal symmetry สามารถแบ่งร่างกายออกเป็นสอง ส่วนที่เหมือนกันได้ทุกระนาบโดยผ่านจุดศูนย์กลางเช่นกัน ได้แก่ Volvox
2. พิจารณาจากจำนวนชั้นของเนื้อเยื่อ (Germ layer)
2.1 Diploblastica จะมีเนื้อเยื่อเพียงสองชั้นคือ เนื้อเยื่อชั้นนอก(ectoderm) และเนื้อเยื่อชั้นใน(endoderm)
2.2 Triploblastica จะมีเนื้อเยื่อ สามชั้น คือ มีเนื้อเยื่อชั้นกลางเพิ่มเข้ามาคือ Mesoderm ได้แก่ สัตว์จำพวกหนอนตัวแบนขึ้นไป
3. พิจารณาจากช่องว่างภายในลำตัว (coelom)
3.1 Acoelomate animal คือสัตว์ที่ไม่มีช่องว่างภายในลำตัวเช่น หนอนตัวแบน (Phylum Platyhelminthes)
3.2 Psudocoelomate animal (Psudocoelom) คือสัตว์ที่มีช่องว่างแบบ เทียม จะมีช่องว่างที่อยู่ระหว่าง เนื้อเยื่อชั้นนอกกับชั้นกลาง หรือเนื้อ เยื่อชั้นกลางกับชั้นใน เช่น หนอนตัวกลม (Phylum Nemathehelminthes)
3.3 Eucoelomate animal (True coelom) คือสัตว์ที่มีช่องว่างภายในลำ ตัวแบบแท้ เกิดจากเนื้อเยื่อชั้นกลางแยกตัวออกไปเป็นช่อง เช่น ไส้เดือน ดิน และสัตว์ชั้นสูง เป็นต้น
4. พิจารณาจากการแบ่งส่วนลำตัวเป็นข้อปล้อง (Segmentation)
4.1 Non metameric คือแบ่งเป็นข้อปล้องเฉพาะภายนอก เกิดที่ลำตัวเท่า นั้น ไม่ได้เกิดตลอดทั้งตัว เช่น พยาธิตัวตืด,หนอนตัวกลม, เอคไคโน เดิร์ม และมอลลัสกา
4.2 Metameric คือแบ่งเป็นข้อปล้องอย่างแท้จริง โดยเกิดตลอดลำตัว เกิด จากเนื้อเยื่อชั้นกลาง เนื้อเยื่อชั้นอื่นจึงเกิดข้อปล้องไป ด้วย เช่น ไส้เดือนดิน กุ้ง ปู และสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง
5. พิจารณาจากการมีระบบเลือด
5.1 สัตว์ที่ยังไม่มีระบบเลือด เช่น ฟองน้ำ,ซีเลนเทอเรต, หนอนตัวแบนและ หนอนตัวกลม
5.2 สัตว์ที่มีระบบเลือดแบบวงจรเปิด เช่น อาร์โทรพอด, มอลลัสก์ และปลาดาว เป็นต้น
5.3 สัตว์ที่มีระบบเลือดแบบวงจรปิด เช่น ไส้เดือนดิน และสัตว์ชั้นสูง
6. พิจารณาจากลักษณะทางเดินอาหาร
6.1 ทางเดินอาหารแบบไม่แท้จริง (Channel network) เป็นเพียงช่องว่างแบบ ร่างแห เป็นเพียงทางผ่านของน้ำจากภายนอกเข้าสู่ลำตัว เช่น ฟองน้ำ
6.2 ทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete digestive tract)
วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554
รายชื่อประเทศและเขตการปกครองเรียงตามขนาดพื้นที่ทั้งหมด
รายชื่อประเทศและเขตการปกครองเรียงตามขนาดพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงรัฐอธิปไตยและเขตการปกครอง เรียงตามขนาดพื้นที่ทั้งหมด โดยยึดตามมาตรฐานสากล ISO 3166-1
รายชื่อ
ชื่อประเทศในตัวหนา หมายถึง รัฐอธิปไตย; ชื่อประเทศใน ตัวเอียง หมายถึง เขตการปกครองที่ไม่เป็นอิสระ
เพื่อจุดประสงค์ทางสถิติ เขตการปกครองจะถูกบรรจุในรายชื่อรวมกับรัฐอธิปไตยด้วย ตัวเลขที่ปรากฏจะแสดงขนาดพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งพื้นดินและพื้นที่น้ำภายในดินแดนนั้นด้วย (เช่น ทะเลสาบ เขื่อน และแม่น้ำ) ซึ่งบางส่วนอาจนับรวมไปถึงพื้นที่ของน้ำภาคพื้นสมุทร (น่านน้ำชายฝั่ง) แต่ไม่นับรวมน่านน้ำอาณาเขตและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
สถิติดังกล่าวไม่นับรวมเขตการปกครองซึ่งไม่มีพลเมืองอาศัยอยู่ – รวมทั้งการอ้างสิทธิ์ของหลายประเทศเหนือพื้นที่ของทวีปแอนตาร์กติกา[1] (14,400,000 กม.²) – และการรวมกลุ่มประเทศ เช่น สหภาพยุโรป (4,324,782 กม.²) ซึ่งมีอำนาจอธิปไตย แต่ไม่สามารถพิจารณาว่าเป็นรัฐอธิปไตยหรือเขตการปกครองได้ พื้นที่ทั้งหมดของโลกคิดเป็น 148,940,000 กม.²[2] (คิดเป็น 29.1% ของพื้นผิวโลกทั้งหมด)
รายชื่อ
ชื่อประเทศในตัวหนา หมายถึง รัฐอธิปไตย; ชื่อประเทศใน ตัวเอียง หมายถึง เขตการปกครองที่ไม่เป็นอิสระ
อันดับ | ประเทศ | พื้นที่ (กม.²) | หมายเหตุ |
1 | 17,098,242 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก | |
2 | 9,984,670 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาทั้งหมด | |
3/4 | 9,629,091 | นับพื้นที่รัฐ 50 รัฐ รวมทั้งวอชิงตัน ดี.ซี. สถิติของสหประชาชาติรวมไปถึงเกรตเลกส์และพื้นที่น่านน้ำชายฝั่ง; สถิติของ The World Factbook อยู่ที่ 9,826,630 กม.² ซึ่งนับรวมพื้นที่น่านน้ำอาณาเขตด้วย[3]; ส่วน Encyclopædia Britannica ระบุไว้ที่ 9,522,055 กม.² ซึ่งไม่นับรวมพื้นที่ของน่านน้ำชายฝั่งและน่านน้ำอาณาเขต[4] | |
3/4 | 9,596,961–9,640,011 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นรัฐเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก; สถิติของสหประชาชาตินับรวมเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ (9,596,961 กม.²) ซึ่งไม่นับรวมเขตบริหารพิเศษ ฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งสหประชาชาติได้บันทึกไว้แยกต่างหาก แต่ตัวเลขดังกล่าวต่างก็ไม่นับรวมน่านน้ำชายฝั่ง น่านน้ำอาณาเขต พื้นที่ของเกาะไต้หวัน และพื้นที่ในการครอบครองของสาธารณรัฐจีน ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าว; นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างในการนับพื้นที่ซึ่งกำลังพิพาทกับอินเดีย | |
5 | 8,514,877 | รวมพื้นที่กลุ่มเกาะเฟร์นันดูดีโนรอนยา เกาะปะการังโรกัส เกาะตรินดาดี หมู่เกาะมาร์ติม วัซ และหินเซาเปดรูอีเซาเปาลู ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ 365 กม.² (อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวน้อยกว่า 0.003% ของขนาดพื้นที่ทั้งหมด) เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ | |
6 | 7,692,024 | รวมหมู่เกาะโคโคส (14 กม.²), เกาะคริสต์มาส (135 กม.²), เกาะลอร์ดฮาว (56 กม.²) และเกาะแมกควารี (128 กม.²); ไม่นับรวมพื้นที่เกาะนอร์ฟอล์ก (36 กม.²), หมู่เกาะแอชมอร์และคาร์เทียร์ (5 กม.²), หมู่เกาะทะเลคอรัล (0.91 กม.²) และหมู่เกาะเฮิร์ดและแมกโดนัลด์ (372 กม.²) ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์ในดินแดนแอนตาร์กติกาของออสเตรเลีย (5,896,500 กม.²) เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโอเชียเนีย | |
7 | 3,201,446–3,287,263 | จำนวนที่น้อยกว่าไม่นับรวมดินแดนแคชเมียร์และอรุณาจัลประเทศ ซึ่งอ้างสิทธิ์โดยปากีสถานและจีนตามลำดับ ส่วนจำนวนที่มากกว่านับรวมดินแดนพิพาทกับปากีสถานและจีน (120,849 กม.²) ด้วย | |
8 | 2,780,400 | ไม่นับการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ (12,200 กม.²), เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช และเหนือแอนตาร์กติกา (969,000 กม.²) | |
9 | 2,724,900 | ประเทศไม่มีทางออกทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก | |
10 | 2,505,813 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาและโลกอาหรับ | |
11 | 2,381,741 | ||
12 | 2,344,858 | ||
13 | 2,166,086 | ประเทศซึ่งมีอำนาจเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก | |
14 | 2,149,690 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง | |
15 | 1,964,375 | นับรวมพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่ 1,959,248 กม.² และเกาะอีก 244 เกาะในอ่าวแคลิฟอร์เนีย อ่าวเม็กซิโก มหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลแคริบเบียน ซึ่งมีพื้นที่รวม 5,127 กม.²; ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์เหนือเกาะคลิพเปอร์ตัน (8.9 กม.²) | |
16 | 1,904,569 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | |
17 | 1,759,540 | ||
18 | 1,628,750 | ||
19 | 1,564,100 | ||
20 | 1,285,216 | ||
21 | 1,284,000 | ||
22 | 1,267,000 | ||
23 | 1,246,700 | ||
24 | 1,240,192 | ||
25 | 1,221,037 | รวมหมู่เกาะปรินซ์เอดเวิร์ด (เกาะมาเรียนและเกาะปรินซ์เอดเวิร์ด) | |
26 | 1,141,748 | ||
27 | 1,104,300 | ไม่นับรวม Ilemi Triangle | |
28 | 1,098,581 | ||
29 | 1,025,520 | ||
30 | 1,002,000 | ไม่นับรวม Hala'ib triangle | |
31 | 945,087 | รวมเกาะเมเฟีย เพมบา และแซนซิบาร์ | |
32 | 923,768 | ||
33 | 912,050 | ||
34 | 824,116 | ||
35/36 | 801,590 | ||
35/36 | 796,095–881,912 | จำนวนที่น้อยกว่าไม่นับรวมข้อมูลพื้นที่ของดินแดนพิพาทรัฐชัมมูและกัศมีร์ ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทกับอินเดีย พื้นที่ดังกล่าวมีอาซัดแคชเมียร์ (13,297 กม.²) และกิลกิต-บัลติสถาน (72,520 กม.²) ในขณะที่จำนวนที่มากกว่านับรวมกัศมีร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดียด้วย | |
37 | 783,562 | ||
38 | 756,102 | รวมพื้นที่เกาะอีสเตอร์และเกาะซาลาอีโกเมซ; ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์เหนือแอนตาร์กติกา (1,250,000 กม.²) | |
39 | 752,612 | ||
40 | 676,578 | ||
41 | 652,090 | ||
42 | 637,657 | ||
43 | 632,834–543,935 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก นับรวมดินแดนโพ้นทะเล เฟรนช์เกียนา (83,534 กม.²), กวาเดอลูป (1,703 กม.²; ไม่นับ แซงบาร์เตเลอมี และแซงมาร์แตง ), มาร์ตีนีก (1,128 กม.²) และ เรอูนียง (2,504 กม.²) ซึ่งปรากฏในรายชื่อของสหประชาชาติแยกจากกัน คือ ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ (543,935 กม.²); สาธารณรัฐฝรั่งเศสรวมไปถึงดินแดนโพ้นทะเลครอบคลุมพื้นที่ 674,843 กม.² ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์เหนือแอนตาร์กติกา (432,00 กม.²) | |
44 | 622,984 | ||
45 | 603,500 | ประเทศซึ่งมีพื้นที่อยู่ในทวีปยุโรปทั้งหมด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด | |
46 | 587,041 | ||
47 | 582,000 | ||
48 | 580,367 | ||
49 | 527,968 | รวมเพอริม โซโกตรา อดีตสาธารณรัฐอาหรับเยเมน (เยเมนเหนือ) และอดีตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเยเมน (เยเมนใต้) | |
50 | 513,120 | ||
51 | 505,992 | นับรวมแผ่นดินใหญ่ หมู่เกาะแบลีแอริก และหมู่เกาะคะเนรี เช่นเดียวกับพื้นที่ในการปกครองของสเปนบนชายฝั่งโมร็อกโก 3 แห่ง – หมู่เกาะชาฟารีนัส โขดหินอาลูเซมัส และโขดหินเบเลซเดลาโกเมรา | |
52 | 488,100 | ||
53 | 475,442 | ||
54 | 462,840 | ||
55 | 447,400 | ||
56 | 446,550 | ไม่นับรวมเวสเทิร์นสะฮารา | |
57 | 441,370 | รวม Gotland และÖland; เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของประเทศระบุว่าสวีเดนมีพื้นที่รวม 173,732 ไมล์² (มากกว่าตัวเลขของสหประชาชาติ) | |
58 | 438,317 | ||
59 | 406,752 | ||
60 | 390,757 | ||
61 | 377,930 | นับรวม 47 อำเภอของญี่ปุ่น แต่ไม่นับรวมดินแดนพิพาท หมู่เกาะคิริล ทางตอนใต้ | |
62 | 357,114 | ||
63 | 342,000 | ||
64 | 338,419 | รวม Åland Islands (1,552 กม.²) | |
65 | 331,210 | ||
66 | 329,847 | ||
67 | 323,802 | นับรวมเฉพาะพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ไม่นับรวมพื้นที่โพ้นทะเล สวาลบาร์ด และ Jan Mayen (62,422 กม.²) และ เกาะบูเวต์ (49 กม.²) เช่นเดียวกับการอ้างสิทธิ์เหนือแอนตาร์กติกา (2,500,000 กม.²) และ Peter I Island (243 กม.²) | |
68 | 322,463 | ||
69 | 312,685 | ||
70 | 309,500 | ||
71 | 301,336 | รวมซาร์ดิเนียและซิซิลี | |
72 | 300,000 | ||
73 | 283,560 | รวมหมู่เกาะกาลาปาโกส | |
74 | 274,200 | ||
75 | 268,680 | รวมหมู่เกาะแอนทิโพดส์ หมู่เกาะโอกแลนด์ หมู่เกาะเบาน์ตี เกาะแคมป์เบลล์ หมู่เกาะแชแทม และหมู่เกาะเคอร์มาเดก | |
76 | 267,667 | ||
77 | 266,000 | ||
78 | 245,857 | ||
79 | 244,820 | รวมร็อกคอลล์และหมู่เกาะเชตแลนด์ | |
80 | 239,460 | ||
81 | 237,500 | ||
82 | 236,800 | ||
83 | 236,040 | ||
84 | 214,970 | ||
85 | 207,600 | ||
86 | 198,500 | ||
87 | 196,190 | ||
88 | 185,180 | รวม 1,295 ก.ม.² ที่อิสราเอลเข้ามายึดครอง | |
89 | 181,040 | ||
90 | 176,220 | ||
91 | 163,610 | ||
92 | 163,270 | ||
93 | 144,000 | ||
94 | 143,100 | ||
95 | 140,800 | ||
96 | 131,940 | ||
97 | 129,494 | ||
98 | 121,320 | ||
99 | 120,540 | ||
100 | 118,480 | ||
101 | 112,620 | ||
102 | 112,090 | ||
103 | 111,370 | ||
104 | 110,910 | ||
105 | 110,860 | ||
106 | 108,890 | ||
107 | 103,000 | ||
108 | 98,480 | ||
109 | 93,030 | ||
110 | 92,391 | รวมอาซอเรสและหมู่เกาะมาเดรา | |
111 | 92,300 | ||
112 | เฟรนช์เกียนา | 91,000 | |
113 | 88,361 | ||
114 | 86,600 | รวมสาธารณรัฐปกครองตนเองนาคีเชวาน และแคว้นนากอร์โน-คาราบัค; สิทธิในการปกครองตนเองของแคว้นถูกยกเลิกโดยสภาสูงสุดของอาเซอร์ไบจานเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 | |
115 | 83,870 | ||
116 | 82,880 | ||
117 | 78,866 | ||
118 | 78,200 | ||
119 | 71,740 | ||
120 | 70,280 | ||
121 | 69,700 | ||
122 | 65,610 | ||
123 | 65,200 | ||
124 | 64,589 | ||
125 | สฟาลบาร์ | 62,049 | รวมสปิตสเบอร์เกนและเกาะแบร์ |
126 | 56,785 | ||
127 | 56,542 | ||
128 | 51,129 | ||
129 | 51,100 | รวม Isla del Coco | |
130 | 48,845 | ||
131 | 48,730 | ||
132 | 47,000 | ||
133 | 45,226 | รวมเกาะ 1,520 เกาะในทะเลบอลติก | |
134 | 43,094 | รวมเกาะบอร์นฮอลในทะเลบอลติก และส่วนอื่น ๆ ของ "Metropolitan Denmark" (คาบสมุทรจัตแลนด์และเกาะใหญ่ ๆ คือ เกาะเชลลันด์และเกาะฟึน) แต่ไม่รวมหมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ ซึ่งรวมพื้นที่แล้วจะได้ 2,389,903(km²) เป็นอันดับที่ 11 | |
135 | 41,526 | ||
136 | 41,290 | ||
137 | 36,125 | ||
138 | 35,980 | รวมพื้นที่เกาะไต้หวัน เกาะ Pescadores Matsu และQuemoy | |
139 | 33,843 | ||
140 | 30,528 | ||
141 | 30,355 | ||
142 | 29,800 | ||
143 | 28,748 | ||
144 | 28,450 | ||
145 | 28,051 | ||
146 | 27,830 | ||
147 | 27,750 | ||
148 | 26,338 | ||
149 | 25,333 | ||
150 | 23,000 | ||
151 | 22,966 | ||
152 | 21,040 | ||
153 | 20,770 | ||
154 | 20,273 | ||
155 | นิวแคลิโดเนีย | 19,060 | |
156 | 18,270 | ||
157 | 17,820 | ||
158 | 17,363 | ||
159 | 15,007 | ||
160 | 13,940 | ||
161 | 13,812 | ||
162 | 12,200 | รวม 80 กว่าเกาะ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ปนะมาณ 65 เกาะ | |
163 | 12,173 | รวม 2 เกาะหลักคือฟอล์กแลนด์ตะวันออกและตะวันตก และเกาะเล็กอื่น ๆ อีกประมาณ 200 เกาะ | |
164 | 11,437 | ||
165 | 11,300 | ||
166 | 10,991 | ||
167 | 10,400 | ||
168 | 9,250 | ||
169 | 9,104 | ||
170 | เฟรนช์เซาเทิร์นและแอนตาร์กติกเทร์ทอรีส์ | 7,829 | รวมเกาะอัมสเตอร์ดัม เกาะแซงปอล หมู่เกาะโกรเซ และหมู่เกาะแกร์เกอลอง; ไม่รวม "ดินแดนอาเดลี" ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 500,000 ก.ม.² ในแอนตาร์กติกา |
171 | เวสต์แบงก์ | 5,860 | รวมเวสต์แบงก์, Latrun Salient, and the northwest quarter of ทะเลเดดซี แต่ไม่รวม ภูเขาสโกปัส; East Jerusalem และ Jerusalem No Man's Land are also included only as a means of depicting the entire area occupied by Israel in 1967 |
172 | 5,770 | ||
173 | 5,128 | ||
174 | 4,167 | ||
175 | 4,033 | ||
176 | เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช | 3,903 | รวมแช็กร็อกส์ แบล็กร็อกส์ เคลิร์กร็อกส์ เกาะเซาท์จอร์เจีย เกาะเบิร์ด และหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ซึ่งมีเกาะอยู่ 9 เกาะ |
177 | 2,944 | ||
178 | 2,586 | ||
179 | เรอูนียง | 2,517 | |
180 | 2,170 | ||
181 | 2,040 | รวมหมู่เกาะอะกาเลกา, Cargados Carajos Shoals (Saint Brandon) และRodrigues | |
182 | กวาเดอลูป | 1,780 | กวาเดอลูป เป็นกลุ่มเกาะที่มีคนอาศัยอยู่ 9 เกาะ รวมบาส-แตร์ กรองด์-แตร์ มารี-กาลองต์ ลาเดซีราด อีลเดแซงต์ (2) แซง-บาร์ตเลอมี อีลเดอลาเปอตีตแตร์ และแซง-มาร์แตง (ส่วนของฝรั่งเศสบนเกาะเซนต์มาร์ติน) |
183 | 1,399 | ||
184 | มาร์ตินีก | 1,100 | |
185 | 1,092 | ||
186 | 1,001 | ||
187 | 960 | รวมบอแนร์ กูราเซา ซาบา Sint Eustatius และSint Maarten (ส่วนของเนเธอร์แลนด์บนเกาะเซนต์มาร์ติน) | |
188 | 811 | รวมหมู่เกาะ 3 กลุ่ม - หมู่เกาะกิลเบิร์ต หมู่เกาะไลน์ และหมู่เกาะฟีนิกซ์ | |
189 | 754 | ||
190 | 748 | ||
191 | 702 | รวมหมู่เกาะโปนเป ชุก ยาป และคอสไร | |
192 | 697 | ||
193 | 665 | ||
194 | 616 | ||
195 | 572 | ||
196 | 549 | ||
197 | 477 | 14 เกาะ รวมไซปัน โรตา และทิเนียน | |
198 | 468 | ||
199 | 458 | ||
200 | 455 | ||
201 | 443 | รวมเกาะเรดอนดา 1.6 ก.ม.² | |
202 | 431 | ||
203 | 430 | ||
204 | เกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกดอนัลด์ | 412 | |
205 | 410 | รวม เกาะเซนต์เฮเลนา แอสเซนชัน และกลุ่มเกาะทรัสตันดาคุนฮา ซึ่งประกอบด้วยเกาะทริสตันดาคุนฮา เกาะกอฟ เกาะอินแอกเซสซิเบิล และหมู่เกาะไนติงเกล | |
206 | 389 | ||
207 | มายอต | 374 | |
208 | ยานไมเอน | 373 | |
209 | ฉนวนกาซา | 360 | |
210 | หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา | 352 | |
211 | 344 | ||
212 | 316 | ||
213 | 300 | ||
214 | หมู่เกาะวาลลิสและหมู่เกาะฟุตูนา | 274 | รวมเกาะวาลลิส เกาะฟุตูนา เกาะอะโลฟี และ 20 เกาะเล็ก ๆ |
215 | 262 | ||
216 | 261 | ||
217 | นีอูเอ | 260 | |
218 | แซงปีแยร์และมีเกอลง | 242 | รวม 8 เกาะเล็ก ๆ ในกลุ่มเกาะแซงปีแยร์และมีเกอลง |
219 | หมู่เกาะคุก | 240 | |
220 | 199 | รวมเกาะโรสและเกาะสเวนส์ | |
221 | 193 | ||
222 | 181.30 | รวมเกาะปะการังบิกีนี เอเนเวตัก ควาจาเลน มาจูโร รองเกลัป และอูติริก | |
223 | 160 | ||
224 | หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน | 153 | ประกอบด้วยเกาะที่มีคนอาศัยอยู่ 16 เกาะ และมากกว่า 20 เกาะที่ไม่มีคนอาศัย; รวมเกาะอะเนกาดา |
225 | เกาะคริสต์มาส | 135 | |
226 | เดเกเลีย | 130.80 | |
227 | อาโกรตีรี | 123 | |
228 | เจอร์ซีย์ | 116 | |
229 | 102 | ||
230 | มอนต์เซอร์รัต | 102 | |
231 | เกิร์นซีย์ | 78 | รวมแอลเดอร์นีย์ เกิร์นซีย์ เฮิร์ม ซาร์ก และเกาะเล็ก ๆ บางเกาะ |
232 | 61 | ||
233 | บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี | 60 | รวมกลุ่มเกาะชาโกสทั้งหมด |
234 | เกาะบูเวต | 58.50 | |
235 | 53.30 | ||
236 | หมู่เกาะพิตแคร์น | 47 | |
237 | เกาะนอร์ฟอล์ก | 34.60 | |
238 | เกาะยูโรปา (ฝรั่งเศส) | 28 | |
239 | 26 | ||
240 | 25.40 | ||
241 | 21 | ||
242 | หมู่เกาะโคโคส (หมู่เกาะคีลิง) | 14 | รวมเกาะเวสต์และเกาะโฮม |
243 | แพลไมราอะทอลล์ | 11.90 | |
244 | โตเกเลา | 10 | |
245 | ราชรัฐภูแถนหลวง | 6.50 | |
246 | เกาะเวก | 6.50 | |
247 | หมู่เกาะมิดเวย์ | 6.20 | รวมเกาะอีสเทิร์น เกาะแซนด์ และเกาะสปิต |
248 | เกาะคลิปเพอร์ตัน | 6 | |
249 | เกาะนาวาสซา | 5.40 | |
250 | เกาะแอชมอร์และเกาะคาร์เทียร์ | 5 | รวมแอชมอร์รีฟ (West, Middle, and East Islets) และเกาะคาร์เทียร์ |
251 | หมู่เกาะโกลริโอโซ | 5 | รวม เกาะโกลรีเยิส อีลดูลี เวิร์ตร็อกส์ เร็กร็อก และเซาท์ร็อก |
252 | หมู่เกาะสแปรตลี | น้อยกว่า 5 | รวมเกาะเล็ก ๆ ประมาณ 100 เกาะ แนวปะการัง และภูเขาทะเล ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ทะเลเกือบ 410,000 ตร.กม. ในตอนกลางของทะเลจีนใต้ |
253 | เกาะจาร์วิส | 4.50 | |
254 | เกาะฮวนเดโนวา | 4.40 | |
255 | หมู่เกาะคอรัลซี | น้อยกว่า 3 | รวมเกาะเล็ก ๆ และแนวปะการังจำนวนมาก ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ทะเล 780,000 ตร.กม. โดยมีหมู่เกาะสำคัญที่สุดคือ หมู่เกาะวิลลิส |
256 | จอห์นสตันอะทอลล์ | 2.80 | |
257 | 1.95 | ||
258 | เกาะฮาวแลนด์ | 1.60 | |
259 | เกาะเบเกอร์ | 1.40 | |
260 | คิงแมนรีฟ | 1 | |
261 | เกาะตรอมแลง | 1 | |
262 | 0.44 | ||
263 | บัสซาสดาอินเดีย | 0.20 | |
264 | หมู่เกาะพาราเซล | ไม่ทราบ | |
265 | ซีแลนด์ | 0.0002 |
อันดับ | ประเทศ | พื้นที่ (กม.²) | หมายเหตุ |
1 | 17,098,242 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก | |
2 | 9,984,670 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาทั้งหมด | |
3/4 | 9,629,091 | นับพื้นที่รัฐ 50 รัฐ รวมทั้งวอชิงตัน ดี.ซี. สถิติของสหประชาชาติรวมไปถึงเกรตเลกส์และพื้นที่น่านน้ำชายฝั่ง; สถิติของ The World Factbook อยู่ที่ 9,826,630 กม.² ซึ่งนับรวมพื้นที่น่านน้ำอาณาเขตด้วย[3]; ส่วน Encyclopædia Britannica ระบุไว้ที่ 9,522,055 กม.² ซึ่งไม่นับรวมพื้นที่ของน่านน้ำชายฝั่งและน่านน้ำอาณาเขต[4] | |
3/4 | 9,596,961–9,640,011 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นรัฐเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก; สถิติของสหประชาชาตินับรวมเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ (9,596,961 กม.²) ซึ่งไม่นับรวมเขตบริหารพิเศษ ฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งสหประชาชาติได้บันทึกไว้แยกต่างหาก แต่ตัวเลขดังกล่าวต่างก็ไม่นับรวมน่านน้ำชายฝั่ง น่านน้ำอาณาเขต พื้นที่ของเกาะไต้หวัน และพื้นที่ในการครอบครองของสาธารณรัฐจีน ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าว; นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างในการนับพื้นที่ซึ่งกำลังพิพาทกับอินเดีย | |
5 | 8,514,877 | รวมพื้นที่กลุ่มเกาะเฟร์นันดูดีโนรอนยา เกาะปะการังโรกัส เกาะตรินดาดี หมู่เกาะมาร์ติม วัซ และหินเซาเปดรูอีเซาเปาลู ซึ่งคิดเป็นพื้นที่ 365 กม.² (อย่างไรก็ตาม จำนวนดังกล่าวน้อยกว่า 0.003% ของขนาดพื้นที่ทั้งหมด) เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ | |
6 | 7,692,024 | รวมหมู่เกาะโคโคส (14 กม.²), เกาะคริสต์มาส (135 กม.²), เกาะลอร์ดฮาว (56 กม.²) และเกาะแมกควารี (128 กม.²); ไม่นับรวมพื้นที่เกาะนอร์ฟอล์ก (36 กม.²), หมู่เกาะแอชมอร์และคาร์เทียร์ (5 กม.²), หมู่เกาะทะเลคอรัล (0.91 กม.²) และหมู่เกาะเฮิร์ดและแมกโดนัลด์ (372 กม.²) ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์ในดินแดนแอนตาร์กติกาของออสเตรเลีย (5,896,500 กม.²) เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโอเชียเนีย | |
7 | 3,201,446–3,287,263 | จำนวนที่น้อยกว่าไม่นับรวมดินแดนแคชเมียร์และอรุณาจัลประเทศ ซึ่งอ้างสิทธิ์โดยปากีสถานและจีนตามลำดับ ส่วนจำนวนที่มากกว่านับรวมดินแดนพิพาทกับปากีสถานและจีน (120,849 กม.²) ด้วย | |
8 | 2,780,400 | ไม่นับการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ (12,200 กม.²), เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช และเหนือแอนตาร์กติกา (969,000 กม.²) | |
9 | 2,724,900 | ประเทศไม่มีทางออกทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก | |
10 | 2,505,813 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาและโลกอาหรับ | |
11 | 2,381,741 | ||
12 | 2,344,858 | ||
13 | 2,166,086 | ประเทศซึ่งมีอำนาจเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก | |
14 | 2,149,690 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง | |
15 | 1,964,375 | นับรวมพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่ 1,959,248 กม.² และเกาะอีก 244 เกาะในอ่าวแคลิฟอร์เนีย อ่าวเม็กซิโก มหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลแคริบเบียน ซึ่งมีพื้นที่รวม 5,127 กม.²; ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์เหนือเกาะคลิพเปอร์ตัน (8.9 กม.²) | |
16 | 1,904,569 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ | |
17 | 1,759,540 | ||
18 | 1,628,750 | ||
19 | 1,564,100 | ||
20 | 1,285,216 | ||
21 | 1,284,000 | ||
22 | 1,267,000 | ||
23 | 1,246,700 | ||
24 | 1,240,192 | ||
25 | 1,221,037 | รวมหมู่เกาะปรินซ์เอดเวิร์ด (เกาะมาเรียนและเกาะปรินซ์เอดเวิร์ด) | |
26 | 1,141,748 | ||
27 | 1,104,300 | ไม่นับรวม Ilemi Triangle | |
28 | 1,098,581 | ||
29 | 1,025,520 | ||
30 | 1,002,000 | ไม่นับรวม Hala'ib triangle | |
31 | 945,087 | รวมเกาะเมเฟีย เพมบา และแซนซิบาร์ | |
32 | 923,768 | ||
33 | 912,050 | ||
34 | 824,116 | ||
35/36 | 801,590 | ||
35/36 | 796,095–881,912 | จำนวนที่น้อยกว่าไม่นับรวมข้อมูลพื้นที่ของดินแดนพิพาทรัฐชัมมูและกัศมีร์ ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทกับอินเดีย พื้นที่ดังกล่าวมีอาซัดแคชเมียร์ (13,297 กม.²) และกิลกิต-บัลติสถาน (72,520 กม.²) ในขณะที่จำนวนที่มากกว่านับรวมกัศมีร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดียด้วย | |
37 | 783,562 | ||
38 | 756,102 | รวมพื้นที่เกาะอีสเตอร์และเกาะซาลาอีโกเมซ; ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์เหนือแอนตาร์กติกา (1,250,000 กม.²) | |
39 | 752,612 | ||
40 | 676,578 | ||
41 | 652,090 | ||
42 | 637,657 | ||
43 | 632,834–543,935 | ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก นับรวมดินแดนโพ้นทะเล เฟรนช์เกียนา (83,534 กม.²), กวาเดอลูป (1,703 กม.²; ไม่นับ แซงบาร์เตเลอมี และแซงมาร์แตง ), มาร์ตีนีก (1,128 กม.²) และ เรอูนียง (2,504 กม.²) ซึ่งปรากฏในรายชื่อของสหประชาชาติแยกจากกัน คือ ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ (543,935 กม.²); สาธารณรัฐฝรั่งเศสรวมไปถึงดินแดนโพ้นทะเลครอบคลุมพื้นที่ 674,843 กม.² ไม่นับรวมการอ้างสิทธิ์เหนือแอนตาร์กติกา (432,00 กม.²) | |
44 | 622,984 | ||
45 | 603,500 | ประเทศซึ่งมีพื้นที่อยู่ในทวีปยุโรปทั้งหมด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด | |
46 | 587,041 | ||
47 | 582,000 | ||
48 | 580,367 | ||
49 | 527,968 | รวมเพอริม โซโกตรา อดีตสาธารณรัฐอาหรับเยเมน (เยเมนเหนือ) และอดีตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเยเมน (เยเมนใต้) | |
50 | 513,120 | ||
51 | 505,992 | นับรวมแผ่นดินใหญ่ หมู่เกาะแบลีแอริก และหมู่เกาะคะเนรี เช่นเดียวกับพื้นที่ในการปกครองของสเปนบนชายฝั่งโมร็อกโก 3 แห่ง – หมู่เกาะชาฟารีนัส โขดหินอาลูเซมัส และโขดหินเบเลซเดลาโกเมรา | |
52 | 488,100 | ||
53 | 475,442 | ||
54 | 462,840 | ||
55 | 447,400 | ||
56 | 446,550 | ไม่นับรวมเวสเทิร์นสะฮารา | |
57 | 441,370 | รวม Gotland และÖland; เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของประเทศระบุว่าสวีเดนมีพื้นที่รวม 173,732 ไมล์² (มากกว่าตัวเลขของสหประชาชาติ) | |
58 | 438,317 | ||
59 | 406,752 | ||
60 | 390,757 | ||
61 | 377,930 | นับรวม 47 อำเภอของญี่ปุ่น แต่ไม่นับรวมดินแดนพิพาท หมู่เกาะคิริล ทางตอนใต้ | |
62 | 357,114 | ||
63 | 342,000 | ||
64 | 338,419 | รวม Åland Islands (1,552 กม.²) | |
65 | 331,210 | ||
66 | 329,847 | ||
67 | 323,802 | นับรวมเฉพาะพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ไม่นับรวมพื้นที่โพ้นทะเล สวาลบาร์ด และ Jan Mayen (62,422 กม.²) และ เกาะบูเวต์ (49 กม.²) เช่นเดียวกับการอ้างสิทธิ์เหนือแอนตาร์กติกา (2,500,000 กม.²) และ Peter I Island (243 กม.²) | |
68 | 322,463 | ||
69 | 312,685 | ||
70 | 309,500 | ||
71 | 301,336 | รวมซาร์ดิเนียและซิซิลี | |
72 | 300,000 | ||
73 | 283,560 | รวมหมู่เกาะกาลาปาโกส | |
74 | 274,200 | ||
75 | 268,680 | รวมหมู่เกาะแอนทิโพดส์ หมู่เกาะโอกแลนด์ หมู่เกาะเบาน์ตี เกาะแคมป์เบลล์ หมู่เกาะแชแทม และหมู่เกาะเคอร์มาเดก | |
76 | 267,667 | ||
77 | 266,000 | ||
78 | 245,857 | ||
79 | 244,820 | รวมร็อกคอลล์และหมู่เกาะเชตแลนด์ | |
80 | 239,460 | ||
81 | 237,500 | ||
82 | 236,800 | ||
83 | 236,040 | ||
84 | 214,970 | ||
85 | 207,600 | ||
86 | 198,500 | ||
87 | 196,190 | ||
88 | 185,180 | รวม 1,295 ก.ม.² ที่อิสราเอลเข้ามายึดครอง | |
89 | 181,040 | ||
90 | 176,220 | ||
91 | 163,610 | ||
92 | 163,270 | ||
93 | 144,000 | ||
94 | 143,100 | ||
95 | 140,800 | ||
96 | 131,940 | ||
97 | 129,494 | ||
98 | 121,320 | ||
99 | 120,540 | ||
100 | 118,480 | ||
101 | 112,620 | ||
102 | 112,090 | ||
103 | 111,370 | ||
104 | 110,910 | ||
105 | 110,860 | ||
106 | 108,890 | ||
107 | 103,000 | ||
108 | 98,480 | ||
109 | 93,030 | ||
110 | 92,391 | รวมอาซอเรสและหมู่เกาะมาเดรา | |
111 | 92,300 | ||
112 | เฟรนช์เกียนา | 91,000 | |
113 | 88,361 | ||
114 | 86,600 | รวมสาธารณรัฐปกครองตนเองนาคีเชวาน และแคว้นนากอร์โน-คาราบัค; สิทธิในการปกครองตนเองของแคว้นถูกยกเลิกโดยสภาสูงสุดของอาเซอร์ไบจานเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 | |
115 | 83,870 | ||
116 | 82,880 | ||
117 | 78,866 | ||
118 | 78,200 | ||
119 | 71,740 | ||
120 | 70,280 | ||
121 | 69,700 | ||
122 | 65,610 | ||
123 | 65,200 | ||
124 | 64,589 | ||
125 | สฟาลบาร์ | 62,049 | รวมสปิตสเบอร์เกนและเกาะแบร์ |
126 | 56,785 | ||
127 | 56,542 | ||
128 | 51,129 | ||
129 | 51,100 | รวม Isla del Coco | |
130 | 48,845 | ||
131 | 48,730 | ||
132 | 47,000 | ||
133 | 45,226 | รวมเกาะ 1,520 เกาะในทะเลบอลติก | |
134 | 43,094 | รวมเกาะบอร์นฮอลในทะเลบอลติก และส่วนอื่น ๆ ของ "Metropolitan Denmark" (คาบสมุทรจัตแลนด์และเกาะใหญ่ ๆ คือ เกาะเชลลันด์และเกาะฟึน) แต่ไม่รวมหมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ ซึ่งรวมพื้นที่แล้วจะได้ 2,389,903(km²) เป็นอันดับที่ 11 | |
135 | 41,526 | ||
136 | 41,290 | ||
137 | 36,125 | ||
138 | 35,980 | รวมพื้นที่เกาะไต้หวัน เกาะ Pescadores Matsu และQuemoy | |
139 | 33,843 | ||
140 | 30,528 | ||
141 | 30,355 | ||
142 | 29,800 | ||
143 | 28,748 | ||
144 | 28,450 | ||
145 | 28,051 | ||
146 | 27,830 | ||
147 | 27,750 | ||
148 | 26,338 | ||
149 | 25,333 | ||
150 | 23,000 | ||
151 | 22,966 | ||
152 | 21,040 | ||
153 | 20,770 | ||
154 | 20,273 | ||
155 | นิวแคลิโดเนีย | 19,060 | |
156 | 18,270 | ||
157 | 17,820 | ||
158 | 17,363 | ||
159 | 15,007 | ||
160 | 13,940 | ||
161 | 13,812 | ||
162 | 12,200 | รวม 80 กว่าเกาะ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ปนะมาณ 65 เกาะ | |
163 | 12,173 | รวม 2 เกาะหลักคือฟอล์กแลนด์ตะวันออกและตะวันตก และเกาะเล็กอื่น ๆ อีกประมาณ 200 เกาะ | |
164 | 11,437 | ||
165 | 11,300 | ||
166 | 10,991 | ||
167 | 10,400 | ||
168 | 9,250 | ||
169 | 9,104 | ||
170 | เฟรนช์เซาเทิร์นและแอนตาร์กติกเทร์ทอรีส์ | 7,829 | รวมเกาะอัมสเตอร์ดัม เกาะแซงปอล หมู่เกาะโกรเซ และหมู่เกาะแกร์เกอลอง; ไม่รวม "ดินแดนอาเดลี" ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 500,000 ก.ม.² ในแอนตาร์กติกา |
171 | เวสต์แบงก์ | 5,860 | รวมเวสต์แบงก์, Latrun Salient, and the northwest quarter of ทะเลเดดซี แต่ไม่รวม ภูเขาสโกปัส; East Jerusalem และ Jerusalem No Man's Land are also included only as a means of depicting the entire area occupied by Israel in 1967 |
172 | 5,770 | ||
173 | 5,128 | ||
174 | 4,167 | ||
175 | 4,033 | ||
176 | เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช | 3,903 | รวมแช็กร็อกส์ แบล็กร็อกส์ เคลิร์กร็อกส์ เกาะเซาท์จอร์เจีย เกาะเบิร์ด และหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ซึ่งมีเกาะอยู่ 9 เกาะ |
177 | 2,944 | ||
178 | 2,586 | ||
179 | เรอูนียง | 2,517 | |
180 | 2,170 | ||
181 | 2,040 | รวมหมู่เกาะอะกาเลกา, Cargados Carajos Shoals (Saint Brandon) และRodrigues | |
182 | กวาเดอลูป | 1,780 | กวาเดอลูป เป็นกลุ่มเกาะที่มีคนอาศัยอยู่ 9 เกาะ รวมบาส-แตร์ กรองด์-แตร์ มารี-กาลองต์ ลาเดซีราด อีลเดแซงต์ (2) แซง-บาร์ตเลอมี อีลเดอลาเปอตีตแตร์ และแซง-มาร์แตง (ส่วนของฝรั่งเศสบนเกาะเซนต์มาร์ติน) |
183 | 1,399 | ||
184 | มาร์ตินีก | 1,100 | |
185 | 1,092 | ||
186 | 1,001 | ||
187 | 960 | รวมบอแนร์ กูราเซา ซาบา Sint Eustatius และSint Maarten (ส่วนของเนเธอร์แลนด์บนเกาะเซนต์มาร์ติน) | |
188 | 811 | รวมหมู่เกาะ 3 กลุ่ม - หมู่เกาะกิลเบิร์ต หมู่เกาะไลน์ และหมู่เกาะฟีนิกซ์ | |
189 | 754 | ||
190 | 748 | ||
191 | 702 | รวมหมู่เกาะโปนเป ชุก ยาป และคอสไร | |
192 | 697 | ||
193 | 665 | ||
194 | 616 | ||
195 | 572 | ||
196 | 549 | ||
197 | 477 | 14 เกาะ รวมไซปัน โรตา และทิเนียน | |
198 | 468 | ||
199 | 458 | ||
200 | 455 | ||
201 | 443 | รวมเกาะเรดอนดา 1.6 ก.ม.² | |
202 | 431 | ||
203 | 430 | ||
204 | เกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกดอนัลด์ | 412 | |
205 | 410 | รวม เกาะเซนต์เฮเลนา แอสเซนชัน และกลุ่มเกาะทรัสตันดาคุนฮา ซึ่งประกอบด้วยเกาะทริสตันดาคุนฮา เกาะกอฟ เกาะอินแอกเซสซิเบิล และหมู่เกาะไนติงเกล | |
206 | 389 | ||
207 | มายอต | 374 | |
208 | ยานไมเอน | 373 | |
209 | ฉนวนกาซา | 360 | |
210 | หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา | 352 | |
211 | 344 | ||
212 | 316 | ||
213 | 300 | ||
214 | หมู่เกาะวาลลิสและหมู่เกาะฟุตูนา | 274 | รวมเกาะวาลลิส เกาะฟุตูนา เกาะอะโลฟี และ 20 เกาะเล็ก ๆ |
215 | 262 | ||
216 | 261 | ||
217 | นีอูเอ | 260 | |
218 | แซงปีแยร์และมีเกอลง | 242 | รวม 8 เกาะเล็ก ๆ ในกลุ่มเกาะแซงปีแยร์และมีเกอลง |
219 | หมู่เกาะคุก | 240 | |
220 | 199 | รวมเกาะโรสและเกาะสเวนส์ | |
221 | 193 | ||
222 | 181.30 | รวมเกาะปะการังบิกีนี เอเนเวตัก ควาจาเลน มาจูโร รองเกลัป และอูติริก | |
223 | 160 | ||
224 | หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน | 153 | ประกอบด้วยเกาะที่มีคนอาศัยอยู่ 16 เกาะ และมากกว่า 20 เกาะที่ไม่มีคนอาศัย; รวมเกาะอะเนกาดา |
225 | เกาะคริสต์มาส | 135 | |
226 | เดเกเลีย | 130.80 | |
227 | อาโกรตีรี | 123 | |
228 | เจอร์ซีย์ | 116 | |
229 | 102 | ||
230 | มอนต์เซอร์รัต | 102 | |
231 | เกิร์นซีย์ | 78 | รวมแอลเดอร์นีย์ เกิร์นซีย์ เฮิร์ม ซาร์ก และเกาะเล็ก ๆ บางเกาะ |
232 | 61 | ||
233 | บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี | 60 | รวมกลุ่มเกาะชาโกสทั้งหมด |
234 | เกาะบูเวต | 58.50 | |
235 | 53.30 | ||
236 | หมู่เกาะพิตแคร์น | 47 | |
237 | เกาะนอร์ฟอล์ก | 34.60 | |
238 | เกาะยูโรปา (ฝรั่งเศส) | 28 | |
239 | 26 | ||
240 | 25.40 | ||
241 | 21 | ||
242 | หมู่เกาะโคโคส (หมู่เกาะคีลิง) | 14 | รวมเกาะเวสต์และเกาะโฮม |
243 | แพลไมราอะทอลล์ | 11.90 | |
244 | โตเกเลา | 10 | |
245 | ราชรัฐภูแถนหลวง | 6.50 | |
246 | เกาะเวก | 6.50 | |
247 | หมู่เกาะมิดเวย์ | 6.20 | รวมเกาะอีสเทิร์น เกาะแซนด์ และเกาะสปิต |
248 | เกาะคลิปเพอร์ตัน | 6 | |
249 | เกาะนาวาสซา | 5.40 | |
250 | เกาะแอชมอร์และเกาะคาร์เทียร์ | 5 | รวมแอชมอร์รีฟ (West, Middle, and East Islets) และเกาะคาร์เทียร์ |
251 | หมู่เกาะโกลริโอโซ | 5 | รวม เกาะโกลรีเยิส อีลดูลี เวิร์ตร็อกส์ เร็กร็อก และเซาท์ร็อก |
252 | หมู่เกาะสแปรตลี | น้อยกว่า 5 | รวมเกาะเล็ก ๆ ประมาณ 100 เกาะ แนวปะการัง และภูเขาทะเล ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ทะเลเกือบ 410,000 ตร.กม. ในตอนกลางของทะเลจีนใต้ |
253 | เกาะจาร์วิส | 4.50 | |
254 | เกาะฮวนเดโนวา | 4.40 | |
255 | หมู่เกาะคอรัลซี | น้อยกว่า 3 | รวมเกาะเล็ก ๆ และแนวปะการังจำนวนมาก ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ทะเล 780,000 ตร.กม. โดยมีหมู่เกาะสำคัญที่สุดคือ หมู่เกาะวิลลิส |
256 | จอห์นสตันอะทอลล์ | 2.80 | |
257 | 1.95 | ||
258 | เกาะฮาวแลนด์ | 1.60 | |
259 | เกาะเบเกอร์ | 1.40 | |
260 | คิงแมนรีฟ | 1 | |
261 | เกาะตรอมแลง | 1 | |
262 | 0.44 | ||
263 | บัสซาสดาอินเดีย | 0.20 | |
264 | หมู่เกาะพาราเซล | ไม่ทราบ | |
265 | ซีแลนด์ | 0.0002 |
[แก้] อ้างอิง
- ^ รายชื่อประเทศซึ่งได้อ้างสิทธิ์เหนือดินแดนแอนตาร์กติกา: อาร์เจนตินา (969,000 กม²/374,000 ไมล์²), ออสเตรเลีย (5,896,500 กม²/2,276,700 ไมล์²), ชิลี (1,250,000 กม²/480,000 ไมล์²), ฝรั่งเศส (432,000 กม²/167,000 ไมล์²), นิวซีแลนด์ (450,000 กม²/170,000 ไมล์²), นอร์เวย์ (2,500,000 กม²/970,000 ไมล์²) and และสหราชอาณาจักร (1,395,000 กม²/539,000 ไมล์²) ซึ่งพื้นที่บางส่วนมีการทับซ้อนกัน พื้นที่จาก แม่แบบ:Coor d Antarctic ไปจนถึง แม่แบบ:Coor d Antarctic (2,100,000 กม²/810,000 ไมล์²) เป็นพื้นที่ซึ่งยังไม่มีประเทศใดอ้างสิทธิ์อยู่ในปัจจุบัน พื้นที่เหล่านี้มักไม่มีมนุษย์อยู่อาศัยอย่างถาวร นอกจากนักวิทยาศาสตร์ซึ่งทำการทดลองอยู่ในแอนตาร์กติกา
- ^ CIA - The World Factbook
- ^ Countries of the World: 21 Years of World Facts, geographic.org, http://www.theodora.com/wfb/abc_world_fact_book.html, retrieved 2008-08-17
- ^ Encyclopedia Britannica - United States - Geography Note. Encyclopedia Britannica. สืบค้นวันที่ 2008-06-26
- United Nations Statistics Division, 2007, Demographic Yearbook—Table 3: Population by sex, rate of population increase, surface area and density. Retrieved
เพื่อจุดประสงค์ทางสถิติ เขตการปกครองจะถูกบรรจุในรายชื่อรวมกับรัฐอธิปไตยด้วย ตัวเลขที่ปรากฏจะแสดงขนาดพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งพื้นดินและพื้นที่น้ำภายในดินแดนนั้นด้วย (เช่น ทะเลสาบ เขื่อน และแม่น้ำ) ซึ่งบางส่วนอาจนับรวมไปถึงพื้นที่ของน้ำภาคพื้นสมุทร (น่านน้ำชายฝั่ง) แต่ไม่นับรวมน่านน้ำอาณาเขตและเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
สถิติดังกล่าวไม่นับรวมเขตการปกครองซึ่งไม่มีพลเมืองอาศัยอยู่ – รวมทั้งการอ้างสิทธิ์ของหลายประเทศเหนือพื้นที่ของทวีปแอนตาร์กติกา[1] (14,400,000 กม.²) – และการรวมกลุ่มประเทศ เช่น สหภาพยุโรป (4,324,782 กม.²) ซึ่งมีอำนาจอธิปไตย แต่ไม่สามารถพิจารณาว่าเป็นรัฐอธิปไตยหรือเขตการปกครองได้ พื้นที่ทั้งหมดของโลกคิดเป็น 148,940,000 กม.²[2] (คิดเป็น 29.1% ของพื้นผิวโลกทั้งหมด)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)